 |
ภายใต้นโยบายของรัฐบาลที่กระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้าในภาคการผลิต เน้นด้านการเกษตรให้มีผลผลิตที่
ขยายตัว สนับสนุนการผลิตสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออก การใช้เทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนการผลิตและการปรับปรุง คุณภาพสินค้าการเกษตรหลากหลายชนิด เพื่อลดความเสี่ยงของครัวเรือนเกษตรกร ตลอดจนการแก้ไขปัญหา ความยากจน ซึ่งในแต่ละแผนงานส่วนใหญ่ได้ให้ความสำคัญกับสถาบันเกษตรกร ด้วยเหตุดังกล่าว กรมตรวจบัญชี สหกรณ์ภายใต้โครงการความร่วมมือกับศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จึงได้ทำการ ประเมินสถานภาพเกษตรกรไทยและนโยบายภาครัฐที่เกษตรกรต้องการ มองผ่านระบบสหกรณ์ สรุปได้ดังนี้ |
ข้อมูลสถานการณ์สหกรณ์การเกษตรในปัจจุบัน |
สหกรณ์เป็นหน่วยเศรษฐกิจหนึ่งในระดับชุมชน ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ตามหลักการสหกรณ์ การจัดตั้งสหกรณ์การเกษตรมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยแก้ปัญหาของเกษตรกรในด้านต่างๆ ได้แก่ ได้แก่ การขาดแคลนเงินทุน ขาดแคลนที่ดินทำกิน ปัญหาในเรื่องการผลิต ปัญหาการตลาดฯลฯ สหกรณ์ภาค การเกษตรไทยปัจจุบัน ประกอบด้วย สหกรณ์การเกษตร สหกรณ์ประมง และสหกรณ์นิคม มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 3,597 แห่ง สมัครใจรวมกันเป็นกลุ่มกว่า 6 ล้านคนเศษ ทำธุรกิจพึ่งพากันโดยสมาชิกและเพื่อสมาชิก มีเม็ดเงินทุน หมุนเวียนในระบบกว่า 2 แสนล้านบาท ผลประกอบการทำกำไร 4.06 พันล้านบาท ยอดรวมทุนดำเนินงานทั้งสิ้น 1.3 แสนล้านบาท |
ตารางแสดงการกระจายตัวของสหกรณ์ภาคการเกษตรในประเทศไทย ปี 2553 |

|
ที่มา : กลุ่มวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ |
หากพิจารณาด้านฐานะความเป็นอยู่ของสมาชิก ผลปรากฏว่าสมาชิกมีเงินออมกับสหกรณ์ 11,016 บาท/ คน ในขณะที่มีภาระหนี้สินกับสหกรณ์ 15,672 บาท/คน ด้านประเด็นความต้องการช่วยเหลือ/ส่งเสริม/สนับสนุน จากภาครัฐที่สำคัญ |
ต้นทุนหรือปัจจัยการผลิตที่จำเป็นในราคาเป็นธรรม อาทิ ปุ๋ย น้ำมัน อาหารสัตว์ พันธุ์พืช ฯลฯ กำหนด/ประกันราคาสินค้าเกษตรสหกรณ์ที่เป็นธรรม การรวบรวม/จำหน่ายสินค้าผ่านระบบสหกรณ์สร้างอำนาจต่อรอง ส่งเสริมแหล่งจำหน่ายสินค้าเกษตร/ขยายโอกาส/เพิ่มรายได้ มาตรฐานและคุณภาพสินค้าเกษตร โดยให้ความรู้ด้านการใช้ปัจจัยการผลิตเหมาะสมกับพื้นที่เพาะปลูก ส่งเสริมวินัยจัดทำบัญชีต้นทุนอาชีพ/บัญชีรับ - จ่ายครัวเรือน |
ผลการประเมินสถานภาพจากศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ |
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินผลการสำรวจสถานภาพเกษตรกรไทยและนโยบายภาคเกษตรที่เกษตรกรต้องการ ซึ่งสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างเกษตรกร 1,182 ตัวอย่างทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 19 22 พฤษภาคม 2554 ที่ผ่านมา ในด้านสถานภาพในการเป็นหนี้ปัจจุบัน กลุ่มตัวอย่างระบุว่าส่วนใหญ่เป็นหนี้ร้อยละ 87.6 โดยมีหนี้ต่อรายมากกว่า 100,000 บาทขึ้นไป แต่มีรายได้เพียง 10,000 - 20,000 บาทเท่านั้น ทั้งนี้ยังระบุได้ว่าเป็นหนี้จากการใช้จ่ายสูงสุดร้อยละ 43.9 รองลงมาเป็นหนี้จากการประกอบอาชีพเกษตร ร้อยละ 28.7 และอีกร้อยละ 20.1 เป็นหนี้จากการซื้อทรัพย์สิน ด้านลักษณะของการก่อหนี้ เป็นหนี้ทั้งในระบบและหนี้นอกระบบด้วยสัดส่วนเท่ากันร้อยละ 34.7 ที่เหลืออีกร้อยละ 30.6 เป็นหนี้ทั้ง 2 ระบบไปพร้อมๆ กัน อย่างไรก็ตามเมื่อสอบถามเกษตรกรถึงความสามารถในการชำระหนี้ ร้อยละ 82.2 สามารถชำระหนี้ในระบบได้ แต่อีกร้อยละ 52.8 ไม่สามารถชำระหนี้นอกระบบได้ |
สถานภาพปัจจุบันของเกษตรกรทั่วไป ส่วนใหญ่มีรายได้ที่ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน แม้พืชผลจะมี ราคาดีขึ้น แต่มีปัญหาในเรื่องต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น รวมทั้งค่าครองชีพที่สูงขึ้นทำให้เมื่อเปรียบเทียบรายรับกับ รายจ่ายแล้ว ยังมีรายได้ลดลงอยู่ ซึ่งการทำอาชีพเกษตรนี้เองที่ทำให้เกษตรกรต้องเป็นหนี้ เพราะต้องกู้ยืมเพื่อเป็น ทุนในการทำการเกษตร |
ทัศนะต่อนโยบายของรัฐบาล |
หากประเมินด้วยการให้คะแนนรัฐบาลชุดก่อน กลุ่มตัวอย่างให้คะแนนรัฐบาล 7 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 เนื่องจากพอใจโครงการประกันราคาสินค้าเกษตร แต่รัฐบาลควรเร่งแก้ไขปัญหาด้านต้นทุนการผลิตที่สูง โดยเฉพาะ ราคาปุ๋ยพร้อมทั้งดูแลราคาสินค้าเกษตรให้มีราคาสูงขึ้น ต้องการให้ควบคุมเรื่องราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น นอกจากนี้อยากให้มีมาตรการช่วยเหลือหลังเกิดภัยธรรมชาติ เนื่องจากกระทบต้นทุน |
ในช่วงการหาเสียงก่อนการเลือกตั้ง พบว่านโยบายแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรของพรรคการเมืองต่างๆ ยังเน้นการหาเสียงเป็นสำคัญและแก้ปัญหาได้ในระยะสั้นเท่านั้น ส่วนความคาดหวังจากรัฐบาลชุดใหม่ ด้านนโยบาย เกษตร อันดับแรกอยากให้ลดต้นทุนการผลิตและโครงการประกันราคาสินค้าเกษตร รวมทั้งโครงการพักชำระหนี้ พร้อมทั้งส่งเสริมอาชีพเสริม ซึ่งปัจจุบันมีเกษตรกรกว่าร้อยละ 60 ยังไม่มีอาชีพเสริม ทำให้ขาดเงินทุนหมุนเวียน และรายได้จากการทำเกษตรอย่างเดียวไม่เพียงพอกับการเลี้ยงดูครอบครัว
|
*****************************
|